พท์แก่สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ว่า ตนจะเดินทางกลับประเทศไทยโดยเร็วพร้อมกับลูกวัย 8 เดือน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่ขอให้ทางการยืนยันเรื่องความปลอดภัย และขอให้มีทนายความอยู่ด้วย โดยตนจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น เพราะหากพูดมากไปคงไม่ดีเท่าไหร่ ส่วนสามีคงไม่ได้เดินทางกลับมาด้วย ทั้งนี้ตนมั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ คิดว่าจะได้รับความยุติธรรม และความปลอดภัย น.ส.วรรณา กล่าวอีกว่า เคยเปิดห้องพักรายเดือนที่อพาร์ทเม้นท์ ถนนเชื่อมสัมพันธ์ 11 ย่านหนองจอกจริง แต่เป็นการเปิดเพื่อสามีของเพื่อนที่ต้องการอยู่ในไทยประมาณ 1-2 เดือน จึงเป็นคนลงนามรับรองให้มีการเปิดอพาร์ทเมนต์ให้ แต่จากนั้นนานนับ 1 ปี ตนไม่ได้เข้าไปยุ่งอะไรด้วยจึงไม่รู้ว่ามีการเปลี่ยนมือหรือมีการทำสัญญาอะไรใหม่หรือไม่ ทั้งนี้ตนได้เห็นใบหน้าชายที่ถูกออกหมายจับอีกคนแล้ว แต่ไม่รู้จักกันมาก่อน สำหรับกรณีที่มีภาพว่าตนเดินทางออกนอกประเทศกับชายคนหนึ่งซึ่งมีหน้าตาคล้ายผู้ต้องสงสัยนั้น คือสามีของตนเองที่เป็นชาวตุรกี นับแต่เกิดข่าวได้พูดคุยกับสามี ซึ่งตอนแรกสามีก็รู้สึกโกรธที่มีการเชื่อมโยงมาถึง แต่สักพักก็เข้าใจ แม้กระทั้งช่วงที่ตุรกีมีการชุมนุมประท้วงประเทศไทย แต่สามีของตนไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมหรือร่วมชุมนุมด้วย “ก่อนเดินทางมายังตุรกีได้อาศัยอยู่ในกรุงเทพ ย่านรามคำแหง และการเดินทางมาตุรกีครั้งนี้เป็นครั้งแรก โดยตั้งใจจะไปทำงาน เมื่อตั้งตัวได้ก็จะกลับไทยไปอยู่บ้านที่จ.พังงา”น.ส.วรรณา กล่าว“
"ไมซาเราะห์"พร้อมกลับไทย ร้องรัฐการันตีความปลอดภัย | เดลินิวส์ „"ไมซาเราะห์"พร้อมกลับไทย ร้องรัฐการันตีความปลอดภัย“ อ่านต่อที่ : http://dailynews.co.th/politics/345426
พท์แก่สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ว่า ตนจะเดินทางกลับประเทศไทยโดยเร็วพร้อมกับลูกวัย 8 เดือน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่ขอให้ทางการยืนยันเรื่องความปลอดภัย และขอให้มีทนายความอยู่ด้วย โดยตนจะขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น เพราะหากพูดมากไปคงไม่ดีเท่าไหร่ ส่วนสามีคงไม่ได้เดินทางกลับมาด้วย ทั้งนี้ตนมั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ คิดว่าจะได้รับความยุติธรรม และความปลอดภัย น.ส.วรรณา กล่าวอีกว่า เคยเปิดห้องพักรายเดือนที่อพาร์ทเม้นท์ ถนนเชื่อมสัมพันธ์ 11 ย่านหนองจอกจริง แต่เป็นการเปิดเพื่อสามีของเพื่อนที่ต้องการอยู่ในไทยประมาณ 1-2 เดือน จึงเป็นคนลงนามรับรองให้มีการเปิดอพาร์ทเมนต์ให้ แต่จากนั้นนานนับ 1 ปี ตนไม่ได้เข้าไปยุ่งอะไรด้วยจึงไม่รู้ว่ามีการเปลี่ยนมือหรือมีการทำสัญญาอะไรใหม่หรือไม่ ทั้งนี้ตนได้เห็นใบหน้าชายที่ถูกออกหมายจับอีกคนแล้ว แต่ไม่รู้จักกันมาก่อน สำหรับกรณีที่มีภาพว่าตนเดินทางออกนอกประเทศกับชายคนหนึ่งซึ่งมีหน้าตาคล้ายผู้ต้องสงสัยนั้น คือสามีของตนเองที่เป็นชาวตุรกี นับแต่เกิดข่าวได้พูดคุยกับสามี ซึ่งตอนแรกสามีก็รู้สึกโกรธที่มีการเชื่อมโยงมาถึง แต่สักพักก็เข้าใจ แม้กระทั้งช่วงที่ตุรกีมีการชุมนุมประท้วงประเทศไทย แต่สามีของตนไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมหรือร่วมชุมนุมด้วย “ก่อนเดินทางมายังตุรกีได้อาศัยอยู่ในกรุงเทพ ย่านรามคำแหง และการเดินทางมาตุรกีครั้งนี้เป็นครั้งแรก โดยตั้งใจจะไปทำงาน เมื่อตั้งตัวได้ก็จะกลับไทยไปอยู่บ้านที่จ.พังงา”น.ส.วรรณา กล่าว“
0 comments:
Post a Comment