
เอเอฟพีรายงานเมื่อ 17 ส.ค. ว่า สื่อหลายสำนักในจีน รวมถึงสื่อของรัฐบาล บทความวิจารณ์การทำงาน รวมถึงการปกปิดความจริงของทางการท้องถิ่นและรัฐบาลเทศบาลนครเทียนจินอย่างเปิดเผย ต่อเหตุการณ์โกดังเก็บสารเคมีระเบิดในเขตอุตสาหกรรมปินไห่ นิวแอเรีย เทศบาลนครเทียนจิน ทางตะวันออกของประเทศ เมื่อ 12 ส.ค. หลังยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 114 ราย และอีกกว่า 700 คนบาดเจ็บ
บทบรรณาธิการของโกลเบิลไทมส์ระบุว่า ราว 12 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุระเบิดรอบแรก ทางการนครเทียนจินยังคงไม่มีข้อมูลให้สาธารณชน การให้รายละเอียดแก่สื่อมวลชนเพื่อถ่ายทอดต่อไปยังประชาชนที่รอคอยความจริง ควรเป็นสิ่งที่ทางการพึงกระทำเป็นกิจวัตรหากต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ใหญ่ในลักษณะนี้
"เพราะการตอบสนองล่าช้าอาจทำให้เกิดกระแสประณามที่นำไปสู่การจลาจลได้ ขณะที่ไชน่าเดลี่ สื่อรัฐบาลจีน ตีพิมพ์ว่ายังมีคำถามอีกมากที่รอคำตอบ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ความล่าช้านี้ทำให้เกิดทฤษฎีสมคบคิด ซึ่งจะเป็นกระแสสังคมต่อไปจนกว่ารัฐบาลจะเปิดเผยข้อมูลเท็จจริง และการตรวจสอบที่โปร่งใส" โกลเบิลไทมส์ระบุ
ด้านไชน่า ดิสซิพลิน อินสเปกเตอร์ แอนด์ ซูเปอร์วิชชั่น นิวส์ สื่อของหน่วยต่อต้านการคอร์รัปชั่นของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เปรียบเทียบว่านอกจากเหตุดังกล่าวทำให้สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินแล้ว ยังเกิดซึ้งคำถามด้านความมั่นคง เนื่องจากประชาชนในเขตอุตสาหกรรมเพิ่งรู้ว่าอาศัยอยู่ใกล้ๆ สารเคมีอันตรายที่มีอานุภาพไม่ต่างจากภูเขาไฟซึ่งพร้อมจะระเบิดทุกเมื่อ
วันเดียวกัน นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุระเบิดเพื่อเยี่ยมผู้บาดเจ็บ รวมถึงให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยที่ยังเร่งค้นหาผู้สูญหาย
ขณะที่นายเหอ ชูเฉิ่ง นายกเทศมนตรีนครเทียนจิน กล่าวว่าเจ้าหน้าที่กำลังเร่งกำจัดสารเคมีที่ยังปนเปื้อนในจุดเกิดเหตุ หลังยอมรับว่าโกดังต้นเหตุเก็บสารเคมีโซเดียมไซยาไนด์ราว 700 ตัน มากกว่าปริมาณที่อนุญาตเพียง 24 ตัน ถึง 30 เท่า
นอกจากนี้ยังพบว่าความเข้มข้นของสารไซยาไนด์มากกว่าระดับปกติถึง 27.4 เท่า และครอบคลุมพื้นที่ในรัศมี 1 กิโลเมตร ทำให้กังวลว่าหากมีฝนตกในเขตอุตสาหกรรม จะก่อให้เกิดสารไฮโดรเจนไซยาไนด์ซึ่งเป็นอัตรายร้ายแรงต่อร่างกาย
ที่มา khaosod.co.th
0 comments:
Post a Comment